แม้ว่าราคาตลาดโลกจะดีดตัวขึ้นไปที่ระดับ 577 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา 87 เหรียญฯ ซึ่งทำให้ราคาแอลพีจีคงราคาเดิมที่ 21.15 บาทต่อกิโลกรัม และ กบง. ให้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยให้ประชาชนในอัตรา 3.02 บาทต่อกิโลกรัม ที่จากเดิมชดเชยที่ 3.57 บาทต่อกิโลกรัม เป็นชดเชยที่อัตรา 6.59 บาทต่อกิโลกรัม
ส่งผลให้เงินไหลออกมากถึง 913 ล้านบาทต่อเดือน ขณะเดียวกันจากการประเมินแนวโน้มราคาซีพี จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นปี 2561 โดยอาจจะต้องพิจารณาความจำเป็นถึงการใช้กองทุนน้ำมันฯ รวมถึงแนวทางการปรับราคาให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป สำหรับฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 1 ต.ค. อยู่ที่ 37,964 ล้านบาท
โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ การเปิดเสรีครั้งนี้ ถ้าเรื่องส่งผลต่อกระทบราคาก็คือจะผันผวนตามตลาดโดยที่ราคาอาจจะสูงหรือต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน (รัฐอาจมีนโยบายในการอุดหนุนราคาโดยผ่านกองทุน LPG) จากข่าวคือ อาจขึ้นถึงต้นปีหน้า กุมภาพันธ์ 2561 ข้อดีอีกข้อคือเพิ่มเรื่องผู้ค้ารายใหม่ให้ประชาชนได้เลือกซื้อได้
แต่อย่างไรก็ดี ทางรัฐ โดยกระทรวงการคลังได้มีการออกบัตรสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือ ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย จะได้ส่วนลด 45 บาท/คน (ต่อ 3 เดือน)
อีกทางคือ ทาง ปตท. ได้ช่วยเหลือเพิ่มกับกลุ่มร้านค้าหาบแร่แผงลอย 2.5 บาท/กิโลกรัม/เดือน
ที่มาข้อมูล : น้องปอสาม
ที่มาภาพ : PTT INSIGHT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น