“กฟผ. ได้หารือกับทาง ปตท.เพื่อร่วมมือโครงการในอนาคต โดยเฉพาะด้านนวัตกรรมที่ ปตท.มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ กฟผ.ต้องการนำนวัตกรรมมาใช้
ในองค์กรมากขึ้น ซึ่งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ กฟผ.จะลงนามเอ็มโอยูกับ ปตท. ในการร่วมมือโครงการต่างๆในอนาคต เบื้องต้น กฟผ. จะส่งบุคลากรเข้าไปเรียนรู้ด้านการจัดหา สั่งซื้อก๊าซแอลเอ็นจีจากทาง ปตท. เพราะ กฟผ. ยังไม่มีประสบการณ์ดังกล่าว”
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปตท.มีแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ซึ่ง กฟผ. มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นในอนาคตจะมีความร่วมมือกันโดยศึกษาตั้งแต่ธุรกิจก๊าซแอลเอ็นจีไปจนถึงโรงไฟฟ้า โดยยืนยันว่า ปตท.ไม่ได้ถูกลดบทบาทในการรักษาความมั่นคงด้านพลังงาน แต่ในทางกลับกันเป็นการเพิ่มบทบาท โดย ปตท. เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการลงทุนในอีอีซี
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลไม่ได้มีนโยบายลดบทบาทปตท. และ กฟผ. ซึ่งรัฐบาลยังมอบหมายให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 2 องค์กรเป็นผู้ที่มีความสำคัญในการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญต่อความมั่นคง ซึ่งได้แก่ ท่อส่งก๊าซ สายส่งไฟฟ้า รวมทั้งสถานีแอลเอ็นจี และโรงไฟฟ้าหลัก ซึ่งจะยังคงอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 หน่วยงาน
ปตท. จัดพิธีบันทึกความร่วมมือด้านพลังงาน ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ตามที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้กำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือด้านพลังงาน ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 14:00 น. – 16:00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 2 อาคาร 3 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ โดยมี ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีฯ นั้น
ที่มา : จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,333 วันที่ 21 - 24 มกราคม พ.ศ. 2561 และ http://www.ryt9.com/s/prg/2774388
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น