27/9/60

ปตท. จับมือ ธ.ก.ส.เปิด 300-400 ปั๊มวางจำหน่ายผลผลิตการเกษตร

ปตท. จับมือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงนามความร่วมมือเปิดพื้นปั๊มน้ำมัน ปตท. 300-400 แห่ง ให้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.วางจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรฟรี เริ่มได้ภายในปี 2560 นี้ พร้อมนำระบบ QR Code มาใช้ชำระเงินแทนการใช้เงินสดรองรับสังคมยุคใหม่


วันที่ 25 ก.ย.2560 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน ได้ลงนามร่วมกับ นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในโครงการปตท. – ธ.ก.ส. รวมพลัง ร่วมใจช่วยเกษตรกร เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. ให้สามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายภายในปั๊มปตท.ได้ฟรี

 นายอรรถพล กล่าวว่า ปตท. พร้อมสนับสนุนการจัดพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรของลูกค้า ธ.ก.ส. ในปั๊มของ ปตท.  โดยจะคัดเลือกปั๊มและกำหนดระยะเวลาจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสม ซึ่ง ธ.ก.ส. เป็นผู้คัดเลือกสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรของ ธ.ก.ส. มาวางจำหน่าย อีกทั้งจะมีการเปิดสาขาและสำนักงานตัวแทนของ ธ.ก.ส. พร้อมการวางเครื่องให้บริการด้านการเงินการธนาคารอัตโนมัติ (Self Service) ในปั๊ม ปตท.ด้วย

โดยปัจจุบัน ปตท.มีปั๊มน้ำมันอยู่ทั้งหมดประมาณ 1,500 ปั๊ม แต่จะนำร่องโครงการปตท. – ธ.ก.ส. รวมพลังฯประมาณ 300-400 ปั๊มก่อน ซึ่งเป็นปั๊มที่เคยร่วมโครงการรวมพลังซื้อข้าวจากชาวนามาแล้ว และคาดว่าจะเริ่มโครงการ ได้ภายในปี 2560 นี้  

นอกจากนี้ ยังร่วมมือจัดทำโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เช่น การให้ความรู้แก่เกษตรกรในการใช้น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดย ปตท. จะให้การสนับสนุนวิทยากรในการอบรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ตลอดจนให้การสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการอีกด้วย

ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ปั๊ม ปตท.มีจำนวนมากครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ หากเปิดให้เกษตรกรมีช่องทางในการจำหน่ายผลิตผลจะสามารถระบายผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาล ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากเกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆจำหน่ายโดยตรงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. จะพัฒนาช่องทางในการชำระค่าสินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย ผ่านแอพพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A – Mobile และระบบ QR Code ซึ่งผู้ขายมี QR Code ของตัวเอง ผู้ซื้อเพียงแต่มีเงินฝากในบัญชี เมื่อจ่ายชำระค่าสินค้าเพียงใช้โทรศัพท์มือถือ (Smart Phone ) สแกน QR Code ของผู้ขายเท่านั้น ไม่ต้องพกพาเงินสดตอบรับสังคมยุคใหม่ (Cashless Society) โดยครั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้นำตัวอย่างสินค้า SME เกษตร ได้แก่ ผัก ผลไม้ organic กระยาสารทข้าวไรซ์เบอร์รี่ มะพร้าวน้ำหอม กล้วยอินทรีย์ ซึ่งมีการนำ QR Code ที่ ธ.ก.ส. สนับสนุนมาใช้เพิ่มช่องทางในการจ่ายชำระค่าสินค้า และความร่วมมือนี้จะส่งผลให้เกษตรกรและชุมชนในภาคชนบทมีช่องทางการตลาด สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากและพัฒนาวงการเกษตรไทย

ที่มา : http://energynewscenter.com

21/9/60

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจของชาว ปตท. - รางวัลดีเลิศการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส จากปปช.

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.นี้ เป็นอีกหนึ่งวันที่พวกเราชาว ปตท.รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับรางวัล “รัฐวิสาหกิจที่มีการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศด้านการขับเคลื่อนแผนงานยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน” ประเภทดีเลิศจาก ป.ป.ช. จำนวน 2 รางวัล ได้แก่

1. รางวัลดีเลิศด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร (Integrity Culture)
2. รางวัลดีเลิศด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน (Work Integrity)


และที่ต้องยกย่องชื่นชมอีกเรื่อง คือ คุณวิไลทิพย์ วัฒนวิชัยกุล พนักงานในสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ปตท. ได้รับรางวัล "บุคคลต้นแบบ" ด้านการป้องกันและปราบปรามทุจริตอีกด้วยครับ





เพื่อนๆคงทราบข่าวว่า ปตท.ได้รับรางวัลด้านการตลาด นวัตกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศมามากมาย แต่ขอเรียนว่า รางวัลจาก องค์กรปปช.ครั้งนี้ มีความหมายสูงยิ่งต่อพวกเรา เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อน ความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความร่วมมือของทุกคนในองค์กร ที่จะยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสของการดำเนินกิจการทุกด้านของปตท. เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายของการเป็นองค์กรที่เป็นที่เชื่อมั่นเชื่อถือของสังคม



ก่อนพิธีมอบรางวัล ผมได้รับเกียรติร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีด้านการพัฒนาและยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ กับผู้บริหารของ ปปช. สภาพัฒน์ฯ และ สคร. ได้รับฟังข้อคิดดีๆที่จะได้นำไปพัฒนาและต่อยอดการดำเนินงานของ ปตท. ให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้น
และในโอกาสนี้ ผมได้เล่าแนวทางที่ปตท.ได้ดำเนินการต่อเนื่องในเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่

- ปรัชญาการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
- เป้าหมายองค์กรที่ต้องสมดุลทั้ง ด้านธุรกิจ คุณธรรม และการมีส่วนร่วม
- กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมทางธุรกิจ การต่อต้านทุจริต Zero Tolerance
- จัดโครงสร้างและหน่วยปฏิบัติที่มีการป้องกัน 3 ชั้น (3 Lines of Defences)
- ส่งเสริมค่านิยมองค์กร ให้พนักงานเป็นคนเก่ง คนดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
- มีแผนปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เช่น การเข้าร่วมโครงการคุณธรรมในการจัดซื้อขนาดใหญ่ การประกาศไม่รับและไม่ให้ของขวัญ (No Gift Policy) การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการควบคุมภายใน การตรวจสอบข้อร้องเรียนอย่างจริงจังจากภายในและภายนอก (Forensic Investigation)
- เชื่อมโยงการประเมินผลงาน กับเป้าหมายที่สมดุลทั้งการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนที่สอดคล้องกับค่านิยม
ขอขอบคุณกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน คู่ค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนนะครับ ที่ร่วมอุดมการณ์ส่งเสริมให้ ปตท.พัฒนาสู่การเป็นสมบัติของชาติที่คนไทยภาคภูมิใจ

ที่มา : https://www.facebook.com/tevinatptt/posts/1591757160855854

20/9/60

ปตท.เฟ้นหาพาร์ตเนอร์ลงทุนโรงแรมในปั๊ม

ปตท.ผุดโรงแรมในปั๊ม เคาะรายชื่อผู้ร่วมทุนเดือน ต.ค.นี้ นำร่องลงทุนเอง 5 พื้นที่ เผยภาพรวมครึ่งปีแรกธุรกิจสดใส นันออยล์โตต่อเนื่อง



นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ร่วมธุรกิจ (พาร์ตเนอร์) ที่มีความเชี่ยวชาญในกิจการโรงแรมและที่พัก เพื่อร่วมธุรกิจโรงแรมในสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) หรือบริเวณใกล้เคียงปั๊มน้ำมันของ ปตท. ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค. 2560 ทั้งนี้ บริษัทเตรียมกำหนดรูปแบบโรงแรม กำหนดพื้นที่และรายละเอียดต่างๆ ร่วมกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งมีนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติสนใจหลายราย โดยเบื้องต้นคาดว่าจะนำร่องใน 5 พื้นที่ ที่มีการเดินทางหนาแน่น ซึ่งงานดังกล่าวเป็นไปตามแผน 5 ปี (2560-2564)

ด้านผลประกอบการบริษัทช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีและค่าเสื่อมราคา (อีบิตดา) 7,366 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นันออยล์) 1,217 ล้านบาท เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.8% โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ภายใต้ ปตท. รายได้จากธุรกิจน้ำมัน (ออยล์) 6,149 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28.4% จากการขาดทุนจากการสำรองน้ำมัน (สต๊อกลอส)

ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกบริษัทขายน้ำมันสัดส่วน 40.8% ของทั้งประเทศ ขยายตัว 1% เติบโตจากการจำหน่ายน้ำมันโดยรวมเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 โดยครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตตามแนวโน้มของตลาด เนื่องจากมีวันหยุดยาวและมีเทศกาลที่กระตุ้นให้ประชาชนเดินทางมากขึ้น

นายอรรถพล กล่าวว่า ด้านการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อดำเนินธุรกิจน้ำมันคือ บริษัท ปตท.น้ำมัน และการค้าปลีก(พีทีทีโออาร์) อยู่ระหว่างดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนกับรัฐ(พีพีพี) หากแล้วเสร็จภายในปีนี้ เตรียมเสนอขายหุ้นใหม่ต่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ได้ในปี 2561 หากรายละเอียดไม่แล้วเสร็จอาจเลื่อนไปปี 2562

ที่มา : posttoday.com

7/9/60

กรมการค้าภายในเข้ม!! ห้ามขึ้นราคาอาหารจานเดียว หลังก๊าซแอลพีจีปรับราคา

กรมการค้าภายในสั่งเข้มดูแล ราคาก๊าซหุงต้มห้ามขายเกินราคาแนะนำ ชี้ถัง 15 โลขึ้นแค่ 10 บาท ห้ามอ้างขึ้นราคาอาหารจานเดียว เหตุทุนเพิ่มแค่จานละ 3 สตางค์



รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (6 ก.ย. 60)  นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่ กบง. ได้มีมติปรับเพิ่มราคาขายปลีก LPG อีก 0.67 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 21.15 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 10 บาท ต่อถังขนาด 15 กิโลกรัมนั้นว่า (อ่านข่าว : มีผลวันนี้! มติ กบง. ปรับราคาก๊าซหุงต้มอีก 10 บาท) การปรับขึ้นครึ้งนี้แม้จะกระทบในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่ก็คงไม่มากนัก ขณะเดียวกันจากการวิเคราะห์ของเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในพบว่า การปรับขึ้นค่าก๊าซ ส่งผลต่อต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มขึ้นจาน/ชามละ 3 สตางค์เท่านั้น

ดังนั้นผู้ประกอบการอาหารปรุงสำเร็จ จึงไม่มีเหตุผลที่จะปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงได้แจ้งไปยัร้านค้าปลีกจำหน่ายก๊าซหุงต้ม อย่าคิดขึ้นราคาสูงกว่าราคาแนะนำเด็ดขาด เพราะอย่างนั้นถือว่ากระทำผิดกฎหมาย มาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับมีโทษ

ที่มา : news.MThai.com