1 สิงหาคม 2560 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่เปิดเสรีการค้าก๊าซ แอลพีจี โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. เห็นชอบให้ ลอยตัวราคาก๊าซ LPG เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นไปตามกลไกตลาดโลก เหมือนกับน้ำมันและ ก๊าซ เอ็นจีวี
ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ ก๊าซ แอลพีจี ในตลาดโลกปรับตัวลดลง จึงทำให้ภาครัฐเล็งเห็นโอกาสที่เหมาะสมในการเปิดเสรีธุรกิจ แอลพีจี ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ในธุรกิจนี้ นอกจากเกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมด้านราคาแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพการบริการ ซึ่งจะส่งผลดีต่ผู้บริโภค
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว กล่าวกับทีมข่าว TNN ช่อง 16 ว่า การลอยตัวราคาก๊าซ แอลพีจี ในห้วงเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะสมเพราะราคาก๊าซ แอลพีจี ในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งการเปิดเสรี ราคาจะขึ้นลงตามกลไกตลาดสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ขณะเดียวกันจะทำให้การแข่งขันใน
นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน ก๊าซ แอลพีจี มีผู้ใช้อยู่ 3 กลุ่มหลัก ทั้งภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม และ ขนส่ง โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีผู้ใช้มากกว่า 22 ครัวเรือน ซึ่งเมื่อเปิดเสรีธุรกิจนี้ จะทำให้เกิดผู้ประกอบการหน้าใหม่ และ ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น นอกจากผู้ค้าเจ้าเดิม แต่ภาครัฐต้องปรับหลักเกณฑ์เพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนของผู้ค้ารายใหม่ด้วย
ด้านผู้บริโภค ต่าง บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่า เห็นด้วยกับการที่ภาครัฐปล่อยลอยตัวราคา ก๊าซ แอลพีจี เพราะต้องการให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด
ทั้งนี้ ข้อมูลของกรมธุรกิจพลังงาน ระบุ ภาพรวมการใช้ก๊าซ แอลพีจี ตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง เดือน มิถุนายน 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 หรือคิดเป็นปริมาณกว่า 501,000 ตันต่อเดือน โดยครัวเรือนใช้ก๊าซ แอลพีจี มากที่สุด รองลงมาเป็นภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ภาคขนส่ง และ ภาคอุตสาหกรรม
โดยตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 จะไม่มีการกำหนดราคาขายปลีก LPG ทั้งหมดทั้งหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน โรงอะโรเมติก และโรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า (Import Parity) พร้อมกับยกเลิกการส่งเงินเข้าหรือชดเชยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากทุกส่วนการผลิต และยกเลิกการประกาศราคาขายส่ง เพื่อให้ตลาดก๊าซ LPG มีการแข่งขันสมบูรณ์ขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรองรับการนำเข้าก๊าซที่จะมากขึ้นในอนาคต เพราะแหล่งการผลิตในประเทศมีแนวโน้มจะลดลง
ด้านรองอธิบดีกรมการค้าภายใน ประกาศลอยตัวก๊าซ LPG ยันไม่กระทบค่าครองชีพ “ผู้ค้า-ประชาชน” หนุนค้าเสรี
นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้เริ่มประกาศลอยตัวราคาขายก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ตามตลาดโลก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และมั่นใจว่าจะไม่กระทบค่าครองชีพประชาชน เนื่องจากมี "กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง" ช่วยอุดหนุนส่วนต่าง และกรมการค้าภายใน ยังมีการประกาศราคาแนะนำขายปลีก รวมทั้งจะมีการกำหนดราคาเพดานที่เหมาะสม หากราคาขายปลีกในตลาดโลกปรับขึ้นสูงมาก
ทั้งนี้ปัจจุบันราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ จึงไม่มีผลกระทบต่อราคาอาหารปรุงสำเร็จ และไม่มีเหตุผลที่ร้านค้าหรือผู้ประกอบการใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคา ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานยังมีมาตรการ ดูแลผู้มีรายได้น้อย และร้านค้า โดยมีส่วนลดการซื้อก๊าซหุงต้ม ซึ่งหากพบร้านค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569
โดยขณะนี้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG อยู่ที่กิโลกรัมละ 20.49 บาท กรมการค้าภายใน ได้ประกาศราคาแนะนำขายปลีกก๊าซหุงต้มบรรจุถังขนาด 15 กิโลกรัม ในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จำหน่ายปลีกในราคาไม่เกินถังละ 343 บาท รวมค่าบริการขนส่งถึงสถานที่ของผู้ซื้อ ระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร แต่ไม่รวมค่าบริการขนส่งขึ้นบนอาคารสูง
ด้าน นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าขณะนี้กำลังติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรม แต่การประกาศลอยตัวในช่วงนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม เพราะราคาตลาดโลกอยู่ในระดับต่ำ และภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่รับได้ ทำให้การใช้งานในระยะยาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา : http://www.tnnthailand.com และ http://news.ch7.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น